โบท็อกซ์ Archives - The miss clinic คลินิกเสริมความงาม ศัลยกรรม บริการฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ Mon, 17 Jun 2024 10:03:14 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.6.1 https://themissclinic.com/wp-content/uploads/2023/07/cropped-27-6-66-LOGO-THE-MISS-BLUE-e1690439086231-32x32.png โบท็อกซ์ Archives - The miss clinic คลินิกเสริมความงาม ศัลยกรรม บริการฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ 32 32 5 ข้อควรรู้เกี่ยวกับการทำ hifu ขอนแก่น ช่วยเรื่องอะไร ทำกี่วันเห็นผล? https://themissclinic.com/hifu-%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b9%81%e0%b8%81%e0%b9%88%e0%b8%99/ https://themissclinic.com/hifu-%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b9%81%e0%b8%81%e0%b9%88%e0%b8%99/#respond Sat, 15 Jun 2024 10:12:16 +0000 https://themissclinic.com/?p=705 The post 5 ข้อควรรู้เกี่ยวกับการทำ hifu ขอนแก่น ช่วยเรื่องอะไร ทำกี่วันเห็นผล? appeared first on The miss clinic คลินิกเสริมความงาม ศัลยกรรม บริการฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์.

]]>

hifu ขอนแก่น หัตถการดูแลผิวตัวเด็ดที่ครอบครองหัวใจคนที่ชอบดูแลผิวให้อ่อนเยาว์ หน้าสวยเด็กดูอ่อนกว่าวัยรวมไปจนถึงผู้ที่ต้องการกระชับสัดส่วนของร่างกายให้เรียวสวยได้อยู่เสมอ เพราะแค่เพียงการดูแลตัวเองด้วยการใช้สกินแคร์เป็นประจำ การเลือกรับประทานอาหารที่ดีหรือการลุกขึ้นมาออกกำลังกายก็ไม่อาจหยุดยั้งการเสื่อมสภาพของร่างกายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของงานผิว ริ้วรอยหรือความหย่อนคล้อยไปได้ จะดีกว่าไหมถ้าเราสามารถจัดการปัญหาเหล่านี้ให้ดีขึ้นได้อย่างล้ำลึก รวดเร็วและปลอดภัยยิ่งกว่า? บทความนี้ The Miss Clinic ขอชวนทุกท่านมาทำความรู้จัก hifu ขอนแก่น กันแบบชัดๆ hifu ขอนแก่น คืออะไร hifu ช่วยเรื่องอะไร เหมาะกับใครบ้าง? hifu ขอนแก่น กี่ช้อตจึงจะเห็นผล อยู่ได้นานแค่ไหน มาดูทั้ง 5 เรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับ hifu ขอนแก่น ไปพร้อมๆ กันได้เลย

สารบัญ

hifu คืออะไร

hifu (อ่านว่า ไฮฟู่) ย่อมาจากคำว่า High Intensity Focus Ultrasound คือ เทคโนโลยีที่ช่วยยกกระชับผิวให้เต่งตึง และดูเรียบเนียนขึ้นได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้วิธีการผ่าตัดใหญ่ ไม่ต้องใช้ยาสลบ และไม่ต้องใช้เข็ม แต่จะใช้การยิงคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูงผ่านหัวยิง (Cartridge) ในลักษณะของจุดไข่ปลาขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5-1 mm ที่ระดับอุณหภูมิประมาณ 45-70 องศาเซลเซียส ลงไปยังชั้นไขมัน และชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกันกับที่แพทย์ทำศัลยกรรมดึงหน้า (Facelift)

โดยอุณหภูมิความร้อนจะส่งผลให้เนื้อเยื่อเกิดการหดตัวอย่างรวดเร็ว คล้ายกับการดึงหรือเย็บผิว จึงช่วยทำให้ผิวยกกระชับ และเต่งตึงขึ้นได้ทันที 10-30% หลังการรักษา สามารถใช้ทำ hifu ขอนแก่นได้ทั่วทั้งใบหน้า เพื่อช่วยลดเลือนริ้วรอย เก็บกรอบหน้าให้เรียวชัดและปรับผิวให้กระจ่างใสสุขภาพดี นอกจากนี้ยังสามารถทำ hifu เพื่อยกกระชับส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง สะโพก ฯลฯ ขึ้นอยู่กับปัญหา และความต้องการของผู้เข้ารับบริการแต่ละรายบุคคล หลังทำ hifu ขอนแก่น สามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 5-6 เดือน

Hifu ขอนแก่น
Hifu ขอนแก่น
Hifu ขอนแก่น

การทำ hifu ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นของ hifu ทั้งในด้านของการยกกระชับผิวได้ลึกถึงชั้น SMAS และช่วยสลายไขมันส่วนเกินได้บางส่วน โดยการอาศัยหลักการทำงานของคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูง เพื่อทำให้เนื้อเยื่อเกิดการหดตัว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เส้นใยอีลาสตินใหม่ ๆ ใต้ชั้นผิว การดูแลผิวด้วย hifu จึงช่วยจัดการปัญหาเหล่านี้ให้ดีขึ้นได้อย่างชัดเจน

  • ช่วยลดปัญหาผิวหย่อนคล้อย ผิวหลวมขาดความกระชับ ที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของคอลลาเจน และอีลาสตินใต้ชั้นผิว เพราะอายุที่เพิ่มขึ้นรวมถึงผลกระทบจากปัจจัยกระตุ้นอื่น ๆ
  • ช่วยยกกระชับใบหน้า เก็บกรอบหน้าให้เรียวสวย เหมาะกับผู้ที่มีแก้มเยอะ มีเหนียง มีคางสองชั้น
  • ช่วยลดเลือนริ้วรอย รอยย่น ตามจุดต่าง ๆ ทั่วทั้งใบหน้า ริ้วรอยหน้าผาก ร่องแก้ม ร่องจมูก นอกจากนี้เครื่อง hifu ยังปลอดภัยและสามารถใช้ได้กับผิวรอบดวงตาจึงช่วยจัดการปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา รอยตีนกา ปัญหาคิ้วตก หางตาตกได้อย่างเห็นผล
  • ช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง ผิวดูเรียบเนียน เหมาะกับผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง ผิวไม่ละเอียด
  • ช่วยยกกระชับผิวตามจุดต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง เอว สะโพก ฯลฯ ช่วยให้สัดส่วนเรียวเล็กลง

hifu เหมาะกับใคร

hifu เป็นเทคโนโลยีฟื้นฟูผิวที่ช่วยยกกระชับผิวได้อย่างล้ำลึกถึงผิวชั้น SMAS พร้อมช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และเส้นใยอีลาสตินใหม่ ๆ ใต้ชั้นผิวได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องใช้การผ่าตัดใหญ่ ไม่ต้องใช้เข็ม hifu จึงนับเป็นหัตถการดูแลผิว ที่เหมาะสำหรับกลุ่มบุคคลเหล่านี้

  • ผู้ที่ต้องการดูแลผิวให้กระชับและเต่งตึงอยู่เสมอ ผู้ที่ต้องการเพิ่มคอลลาเจนใหม่ ๆ ที่ใต้ชั้นผิว แต่ไม่ต้องการผ่าตัดดึงหน้า หรือไม่ต้องการฉีดสารบำรุงผิวด้วยการใช้เข็มฉีดยา
  • ผู้ที่ต้องการชะลอปัญหาผิว ริ้วรอยก่อนวัยอันควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีอายุ 25 ปีเป็นต้นไปที่ร่างกายเริ่มผลิตคอลลาเจน และอีลาสตินใต้ชั้นผิวได้น้อยลง
  • ผู้ที่มีปัญหาใบหน้าดูโทรม หมองคล้ำไม่สดใส
  • ผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง และต้องการปรับให้ผิวหน้าดูเนียนละเอียดมากขึ้น 
  • ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย รอยพับ รอยเหี่ยวย่นตามจุดต่าง ๆ ของใบหน้า รวมถึงริ้วรอยรอบดวงตา รอยตีนกา
  • ผู้ที่มีปัญหาหางตาตก คิ้วตก ทำให้ใบหน้าดูไม่สดใส หน้าดูมีอายุ
  • ผู้ที่มีกรอบหน้าไม่ชัดเจน มีแก้มเยอะ มีเหนียง มีคางสองชั้น และต้องการให้กรอบหน้าเรียวสวยดูชัดเจนมากยิ่งขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทั้งผิวที่ต้นแขน หน้าท้อง เอว สะโพกและที่ต้นขา
Hifu ขอนแก่น

hifu กี่วันเห็นผล

หลังทำ hifu ขอนแก่น สามารถเห็นผลเรื่องความยกกระชับ ผิวเต่งตึงขึ้นได้ทันทีประมาณ 10-30% จากนั้นจะเริ่มเห็นผลชัดเจนมากขึ้นเมื่อครบ 1 เดือน และจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้อย่างเต็มที่ในช่วง 3-4 เดือน สามารถคงผลลัพธ์ได้นาน 5-6 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ทำ ระดับค่าพลังงานที่ใช้รวมไปจนถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้เข้ารับบริการแต่ละบุคคล

ต้องทำ hifu กี่ช็อตถึงจะเห็นผล

จำนวนช็อต hifu ที่ต้องใช้เพื่อการรักษาขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาผิว ความหย่อนคล้อย และปริมาณไขมันสะสมใต้ชั้นผิวของผู้เข้ารับบริการแต่รายบุคคล ทั้งนี้ก่อนการทำ hifu แพทย์จะต้องประเมินสภาพปัญหาผิว และไขมันใต้ชั้นผิว โดยละเอียดเพื่อกำหนดปริมาณช้อต hifu รวมถึงระดับค่าพลังงานที่ต้องใช้อย่างเหมาะสม เพื่อการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด และสร้างผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน ซึ่งโดยทั่วไปจำนวนช้อต hifu ที่เหมาะสำหรับแต่ละจุดเริ่มต้นที่

  • หน้าผาก 100-200 ช็อต
  • แก้มทั้งสองข้าง 300-500 ช็อต
  • เก็บกรอบหน้า ลดเหนียง ประมาณ 200 ช็อต
  • หน้าท้อง 800 ช็อต
  • ต้นแขน 800-1,600 ช็อต
  • ต้นขาประมาณ 800-1,600 ช็อต

จุดที่ต้องระวังสำหรับการทำ hifu คือ จำนวนช็อตที่แพทย์กำหนดจะต้องมีความเหมาะสมไม่น้อยเกินไป จนไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และจำนวนช็อตจะต้องไม่มากเกินไป เพราะแทนที่จะได้ผลลัพธ์ที่ดีอาจทำให้ผิวเบิร์นไหม้ แสบแดง และเสี่ยงต่อการทำให้ผิวชั้นนอกได้รับความเสียหายได้

Hifu ขอนแก่น

หลังทํา hifu ห้ามทําอะไรบ้าง

เพื่อให้ผลลัพธ์หลังการทำ hifu ดูสวยงาม ชัดเจนและอยู่ได้ยาวนานมากที่สุด ผู้เข้ารับบริการควรดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยมีข้อห้ามที่ไม่ควรทำหลังการรักษาผิวด้วยเครื่อง hifu ดังนี้

  • หลังทำ hifu เสร็จใหม่ๆ ไม่ควรใช้นิ้วมือสัมผัส นวด กดหรือแกะเกาตรงบริเวณที่ทำ hifu เพราะชั้นผิวจะถูกรบกวนจนทำให้เกิดอาการอักเสบ บวมแดง
  • อาการช้ำหรือรอยบวมแดงหลังทำ hifu เป็นอาการที่พบได้เป็นปกติและจะเริ่มดีขึ้นภายใน 2-3 วันหลังการรักษา สามารถรับประทานยาแก้ปวด ยาลดบวมที่คลินิกจ่ายให้เพื่อช่วยบรรเทาอาการให้ดีขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการออกแดดหรือให้ผิวบริเวณที่ทำ hifu สัมผัสกับแสงแดดโดยตรงเป็นเวลาอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ เป็นประจำทุกวันก่อนออกจากบ้าน
  • งดสูบบุหรี่ งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 3-7 วันหลังทำ hifu ขอนแก่น เพื่อให้เซลล์ผิวซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเองได้อย่างเต็มที่
  • ดื่มน้ำสะอาดให้มากขึ้นโดยควรดื่มให้ได้อย่างน้อย 1.5-2 ลิตร/วัน เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งสุขภาพดีอยู่เสมอ 

สรุป

Hifu ขอนแก่น เทคโนโลยีช่วยยกกระชับผิวให้เต่งตึงและเรียบเนียนขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย โดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น สามารถทำ hifu เพื่อยกกระชับผิวได้ทั่วทั้งใบหน้า รอบดวงตา ยกกระชับแก้มและเหนียงเพื่อทำให้ใบหน้าเรียวสวยเป็นทรง V-shape และสามารถทำ hifu เพื่อยกกระชับผิวได้หลายตำแหน่งทั่วทั้งร่างกายทั้งผิวบริเวณลำคอ ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง เอว สะโพก ฯลฯ

หลังทำ hifu สามารถสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันที 10-30% และเห็นผลได้อย่างเต็มที่ในช่วง 3-4 เดือน ช่วยให้ผิวยกกระชับได้ยาวนาน 5-6 เดือน สำหรับใครที่กำลังสนใจยกกระชับผิวให้เต่งตึง หน้าสวยเด็กดูอ่อนกว่าวัย กระชับสัดส่วนให้เรียวสวยเพิ่มความมั่นใจมากยิ่งขึ้นด้วยการทำ hifu สามารถติดต่อเข้ามาที่ The Miss Clinic เพื่อขอรับคำปรึกษา ดูรีวิว hifu จากลูกค้าตัวจริง และจองคิวเข้ารับการรักษาได้ตลอด 24 ชั่วโมง

The post 5 ข้อควรรู้เกี่ยวกับการทำ hifu ขอนแก่น ช่วยเรื่องอะไร ทำกี่วันเห็นผล? appeared first on The miss clinic คลินิกเสริมความงาม ศัลยกรรม บริการฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์.

]]>
https://themissclinic.com/hifu-%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b9%81%e0%b8%81%e0%b9%88%e0%b8%99/feed/ 0
ดริปวิตามินผิว ดีไหม? อยากผิวกระจ่างใสต้องดริปกี่ครั้ง https://themissclinic.com/%e0%b8%94%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%9b%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%95%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%9c%e0%b8%b4%e0%b8%a7/ https://themissclinic.com/%e0%b8%94%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%9b%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%95%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%9c%e0%b8%b4%e0%b8%a7/#respond Sat, 06 Apr 2024 09:28:25 +0000 https://themissclinic.com/?p=644 The post ดริปวิตามินผิว ดีไหม? อยากผิวกระจ่างใสต้องดริปกี่ครั้ง appeared first on The miss clinic คลินิกเสริมความงาม ศัลยกรรม บริการฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์.

]]>

ดริปวิตามินผิว หัตถการกอบกู้ผิวทั่วทั้งร่างกายให้ดูเปล่งปลั่ง สวยใส มีออร่าน่ามองที่ได้รับความนิยมติดต่อกันนานหลายปีและในปัจจุบันยังมีการพัฒนาสูตรดริปวิตามินผิวออกมาให้เลือกหลายสูตร ไม่ว่าจะเป็นการดริปวิตามินผิวสูตรบูสต์ผิวกระจ่างใส ลดปัญหาผิวหมองคล้ำ ดริปวิตามินผิวสูตรออร่า ดริปวิตามินสูตรเข้มข้น เพื่อการดูแลผิวอย่างล้ำลึกรวมไปจนถึงสูตรดริปวิตามินที่ช่วยฟื้นบำรุงร่างกาย และส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น

สำหรับใครที่อยากดูแลผิวให้เปล่งปลั่งสดใสจากภายในสู่ภายนอกด้วยการดริปผิว แต่ยังมีข้อสงสัยว่า การดริปวิตามินผิว คืออะไร? ดีจริงไหม ดริปวิตามินผิวต้องทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล ปลอดภัยจริงหรือเปล่า? วันนี้น้อง miss จาก The Miss จะมาให้คำตอบสาวๆเองค่ะ

สารบัญ

ดริปวิตามินผิว คืออะไร

การดริปวิตามินผิว (IV Drip) คือ การฉีดหรือดริปวิตามินต่าง ๆ เช่น วิตามินA วิตามินC วิตามินE สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) คอลลาเจน (Collagen) แร่ธาตุและสารน้ำต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อผิวเข้าสู่เส้นเลือดดำโดยตรง เพื่อให้วิตามินและสารน้ำเหล่านี้ ตรงเข้าบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งกระจ่างใส จัดการปัญหาผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำต่าง ๆ ให้ดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ตรงจุด และมีความปลอดภัยสูง

ความโดดเด่นของการดริปวิตามินผิวทางเส้นเลือดดำโดยตรง คือ ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมเอาวิตามิน และสารสำคัญต่าง ๆ ไปใช้ได้ครบถ้วน 100% ซึ่งเมื่อเทียบกับการดูแลผิวด้วยการรับประทานวิตามิน หรืออาหารเสริม ที่ต้องผ่านกระบวนการย่อยและดูดซึม ทำให้ร่างกายสามารถดึงสารสำคัญไปใช้ได้จริงแค่เพียงประมาณ 20-50% เท่านั้น

ดริปวิตามินผิว ช่วยอะไรบ้าง

การดริปวิตามินผิว เกลือแร่ และสารน้ำสำคัญต่าง ๆ ผ่านเส้นเลือดดำไปอย่างช้า ๆ จึงทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารสำคัญต่าง ๆ ไปใช้ได้อย่างเต็มที่ การดริปวิตามินผิว หรือทำ IV Drip จึงมีส่วนช่วยในการดูแล และฟื้นฟูสุขภาพผิวให้ดีขึ้น ดังนี้

  • การดริปวิตามินผิวช่วยดูแล และปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดีขึ้น ทำให้สีผิวเรียบเนียนกระจ่างใส ผิวดูเปล่งปลั่งสุขภาพดี ช่วยลดเลือดจุดด่างดำ รอยดำ ทำให้สีผิวสม่ำเสมอกันทั่วทั้งร่างกาย
  • สูตรดริปวิตามินผิวหลาย ๆ สูตรยังมีส่วนผสมที่ช่วยทำให้ผิวแข็งแรง ปกป้องผิวไม่ให้ถูกทำร้ายจากแสงแดดและมลภาวะ
  • การดริปวิตามินผิวที่มีส่วนผสมของวิตามิน แร่ธาตุ และสารน้ำที่มีความจำเป็นต่อร่างกายมีส่วนช่วยบำรุง ฟื้นฟูเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ
  • การดริปวิตามินผิวช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ ที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย ช่วยชะลอกระบวนการเสื่อมชราของเซลล์ผิว ป้องกันปัญหาผิวดูแก่กว่าวัย เช่น ริ้วรอยร่องลึก ฝ้า กระ จุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ฯลฯ
  • ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ไม่ป่วยบ่อย ลดอาการอ่อนเพลีย ลดโอกาสการเกิดโรคหวัด โรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจ

 ดริปวิตามินผิว เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่ต้องการดูแลฟื้นบำรุงสุขภาพผิวให้ดูดีขึ้น ปรับผิวให้ขาวกระจ่างใสได้อย่างเร่งด่วน และมีความปลอดภัย อยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ
  • ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ และเสริมรูปลักษณ์ให้สวยงามอยู่เสมอ แต่ไม่ค่อยมีเวลาสำหรับการดูแลตัวเอง
  • ผู้ที่มีพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม รับประทานอาหารไม่ครบหมู่ ทำให้ร่างกายขาดวิตามิน และแร่ธาตุสำคัญ ส่งผลให้เกิดปัญหาผิวแห้งกร้าน หมองคล้ำ ผมร่วงหรือรู้สึกอ่อนเพลียอยู่เป็นประจำ
  • ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรงจากภายใน กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง สุขภาพดี ไม่ป่วยบ่อย
ดริปวิตามินผิว

ดริปวิตามินผิว กี่ครั้งเห็นผล

ระยะเวลาที่จะเริ่มเห็นผลหลัง การดริปวิตามินผิวจะอยู่ที่ประมาณ 4 สัปดาห์ ทั้งนี้แนะนำว่าควรเข้ามาดริปผิวอย่างต่อเนื่องประมาณ 3-5 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 1 สัปดาห์หรือเข้ามาดริปวิตามินผิวตามจำนวนครั้งที่แพทย์ผู้ทำการรักษาแนะนำ เพื่อช่วยให้เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ระยะเวลาของการเห็นผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่สภาพผิว การดูดซึมภายในร่างกายตลอดไปจนถึงการดูแลตนเอง หลังดริปวิตามินผิวของผู้เข้ารับบริการแต่ละท่านด้วย

ดริปวิตามินผิว อันตรายไหม

โดยทั่วไปแล้วการดริปวิตามินผิว โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นหัตถการฟื้นฟูร่างกายที่ได้มาตรฐาน และมีความปลอดภัยสูง ทุกขั้นตอนของการรักษาอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ แต่หากเลือกดริปวิตามินผิวกับคลินิกที่ไม่มีคุณภาพ สูตรดริปวิตามินผิวไม่ได้มาตรฐาน หรือไม่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา ก็อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงหลังการดริปวิตามินผิวได้ เช่น รู้สึกวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน หายใจติดขัด ความดันต่ำ หรืออาจทำให้ช็อกหมดสติได้

ดังนั้นแล้วเพื่อความปลอดภัย จึงควรดริปวิตามินผิวกับคลินิกที่มีคุณภาพ เปิดดำเนินการสถานพยาบาลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ตัวยาดริปวิตามินผิวที่ใช้จะต้องมีคุณภาพ และผ่านการรับรองมาตรฐานจาก อย. ประเทศไทย และที่สำคัญจะต้องดำเนินการรักษาโดยแพทย์ หรือพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้น

ข้อควรระวังเกี่ยวกับการดริปวิตามินผิว

  • การดริปวิตามินผิวให้ผลลัพธ์การฟื้นฟูผิวได้แบบชั่วคราวประมาณ 1-2 เดือน ไม่สามารถคงผลลัพธ์ได้อย่างถาวร ทั้งนี้สามารถยืดระยะเวลาของผลลัพธ์ให้ยาวนานมากขึ้น ได้ด้วยการดูแลตนเองอย่างเหมาะสม
  • ควรดริปวิตามินกับคลินิกที่ได้คุณภาพ ดำเนินการรักษาโดยแพทย์หรือพยาบาลที่มีความชำนาญเท่านั้น หลีกเลี่ยงการดริปวิตามินผิวกับบุคคลที่แอบอ้างตัวว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ช่วย และควรหลีกเลี่ยงการดริปวิตามินผิวนอกสถานที่ ที่ไม่ใช่คลินิกหรือสถานพยาบาล
  • ตัวยาดริปวิตามินที่ใช้จะต้องผ่านการรับรองมาตรฐาน อย. ประเทศไทยแล้วเท่านั้น หากทางคลินิกไม่สามารถแจ้งหมายเลขทะเบียน อย. หรือไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลตัวยาได้ควรหลีกเลี่ยงการดริปวิตามินผิวกับคลินิกดังกล่าว
  • ผู้หญิงที่อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์ หรืออยู่ในระหว่างการให้นมบุตร ผู้ที่ป่วยเป็นโรคตับ โรคไต ภาวะโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง ภาวะบกพร่องเอนไซม์ไม่ควรดริปวิตามินผิว
  • ผู้ที่ต้องรับประทานยาเพื่อรักษาโรคประจำตัวเป็นประจำ จะต้องแจ้งข้อมูลให้แพทย์หรือพยาบาลทราบอย่างละเอียด เพื่อให้สามารถวางแผนการฟื้นฟูร่างกาย ด้วยการดริปวิตามินผิว ดริปวิตามินอย่างเหมาะสม

การดูแลตัวเองหลังดริปวิตามินผิว

เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนหลังการดริปวิตามินผิว ผู้เข้ารับบริการควรดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์หรือพยาบาล ดังนี้

  • งดการใช้นิ้วมือนวด บีบหรือเช็ดแรง ๆ ในบริเวณที่เพิ่งดริปวิตามิน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการอักเสบ บวมแดงที่บริเวณรอยเข็ม
  • หลังการดริปวิตามิน ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง และหมั่นทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50+++ เป็นประจำทุกวัน
  • หมั่นดูแลบำรุงผิวด้วยสกินแคร์ที่อ่อนโยน และปลอดภัย ช่วยเสริมพลังการบำรุงผิวให้เปล่งปลั่งกระจ่างใส ทั้งจากภายในและภายนอก
  • ดื่มน้ำสะอาดให้ได้อย่างน้อยวันละ 1.5-2 ลิตร เพื่อให้เซลล์ผิวฟื้นฟูตนเองได้อย่างเต็มที่
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ โดยควรนอนให้ได้อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง/วัน
  • ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า งดดื่มเครื่องดื่มทุกชนิดที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพื่อให้วิตามิน คอลลาเจน และสารน้ำต่าง ๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดริปวิตามินผิว

รีวิวดริปวิตามินผิว

สรุป

ดริปวิตามินผิว ดีไหม? อยากผิวกระจ่างใสต้องดริปกี่ครั้ง? สรุปได้ว่าการดริปวิตามินผิวโดยแพทย์ หรือพยาบาลผู้ชำนาญ เป็นหัตถการที่ช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาเปล่งปลั่งกระจ่างใส ผิวดูแข็งแรงสุขภาพดีได้อย่างรวดเร็ว และมีความปลอดภัย โดยควรดริปวิตามินผิวอย่างต่อเนื่องประมาณ 3-5 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นจะเริ่มสังเกตเห็นผลลัพธ์หลังการดริปวิตามินผิวในช่วง 4 สัปดาห์ ทั้งนี้ผู้เข้ารับบริการควรดูแลตนเองตามคำแนะนำของแพทย์/พยาบาลอย่างเคร่งครัด เพื่อผลลัพธ์ผิวสวยกระจ่างใสอย่างชัดเจนหลังการดริปวิตามินผิว

สนใจดริปวิตามินผิวด้วยสูตรตัวยาที่ปลอดภัย ผ่านการรับรองมาตรฐาน อย. ดูแลทุกเคสโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ได้ที่ The Miss Clinic หรือแอดไลน์ @themiss เพื่อสอบถามข้อมูล โปรโมชั่น หรือดูรีวิวดริปวิตามินผิว ได้เลยค่ะ เรายินดีให้คำปรึกษา และประเมินสภาพผิวโดยละเอียด ก่อนเริ่มขั้นตอนการดริปวิตามินผิว ให้คุณมั่นใจได้ในทุกขั้นตอน

 

The post ดริปวิตามินผิว ดีไหม? อยากผิวกระจ่างใสต้องดริปกี่ครั้ง appeared first on The miss clinic คลินิกเสริมความงาม ศัลยกรรม บริการฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์.

]]>
https://themissclinic.com/%e0%b8%94%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%9b%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%95%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%9c%e0%b8%b4%e0%b8%a7/feed/ 0
โบท็อกซ์ คืออะไร ลดกราม ลดหน้าได้จริงไหม ฉีดบ่อยแค่ไหนเห็นผล? https://themissclinic.com/%e0%b9%82%e0%b8%9a%e0%b8%97%e0%b9%87%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b8%8b%e0%b9%8c-%e0%b8%84%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8%b0%e0%b9%84%e0%b8%a3/ https://themissclinic.com/%e0%b9%82%e0%b8%9a%e0%b8%97%e0%b9%87%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b8%8b%e0%b9%8c-%e0%b8%84%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8%b0%e0%b9%84%e0%b8%a3/#respond Mon, 11 Mar 2024 09:11:15 +0000 https://themissclinic.com/?p=593 The post โบท็อกซ์ คืออะไร ลดกราม ลดหน้าได้จริงไหม ฉีดบ่อยแค่ไหนเห็นผล? appeared first on The miss clinic คลินิกเสริมความงาม ศัลยกรรม บริการฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์.

]]>

โบท็อกซ์ (Botox) สุดยอดหัตถการเสกผิวให้สวยเด้งเต่งตึงได้แบบทันใจที่ได้รับความนิยมต่อเนื่องยาวนานมาหลายสิบปีเพราะการฉีดโบท็อกซ์เป็นหัตถการเล็กที่ทำได้ง่าย ใช้เวลาในการรักษาและพักฟื้นไม่นานแถมยังมีความปลอดภัยสูง ไม่ทำให้เกิดการตกค้างสะสมภายในร่างกายและยังสามารถฉีดโบท็อกซ์ เพื่อแก้ไขปัญหาผิวได้ครอบคลุมหลากหลายบริเวณ สำหรับใครที่กำลังสนใจอยากฉีดโบท็อกซ์ และกำลังอยู่ในช่วงศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม โบท็อกซ์ (Botox) คืออะไร? โบท็อกซ์ ฉีดจุดไหนได้บ้าง ฉีดได้บ่อยแค่ไหน? บทความนี้จาก The Miss Clinic รวมทุกเรื่องน่ารู้ก่อนฉีดโบท็อกซ์ไว้ในบทความนี้แล้ว

สารบัญ

โบท็อกซ์ (Botox) คืออะไร

โบท็อกซ์ คือ สารโปรตีน Botulinum toxin type A ที่มีคุณสมบัติเป็นพิษต่อระบบประสาท (Neurotoxin) สกัดได้จากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) ซึ่งถูกนำมาประยุกต์ใช้เพื่อความงาม และการชะลอวัยมาเป็นระยะเวลายาวนานหลายสิบปี โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนิยมฉีดโบท็อกซ์ที่บริเวณใบหน้า และส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เพื่อช่วยลดเลือนริ้วรอยที่มีอยู่แล้วให้ดูจางลง และช่วยลดโอกาสการเกิดขึ้นของริ้วรอยใหม่ ๆ

การฉีดโบท็อกซ์เพื่อปรับแต่งสัดส่วนให้สวยงามได้รูปมากยิ่งขึ้น เช่น โบท็อกซ์ลดกราม โบท็อกซ์โหนกแก้ม โบท็อกซ์กรอบหน้า เพื่อปรับหน้าให้เรียวสวยเป็นทรง V-shape นอกจากนี้ยังมีการใช้โบท็อกซ์ เพื่อบรรเทาอาการของโรคต่าง ๆ อย่างโรคออฟฟิศซินโดรม อาการปวดศีรษะไมเกรนได้อีกด้วย ปัจจุบันมีโบท็อกซ์ให้เลือกใช้หลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อมีระดับราคาและคุณสมบัติในการรักษาที่แตกต่างกัน เช่น โบท็อกซ์ Allergan, Dysport, โบท็อกซ์ Nabota, Aestox, โบท็อกซ์ Xeomin เป็นต้น   

หลักการทำงานของโบท็อกซ์

หลักการทำงานของตัวยาโบท็อกซ์เมื่อฉีดเข้าสู่ชั้นผิว คือ สารโปรตีน Botulinum toxin type A ที่มีคุณสมบัติเป็นสารพิษจะส่งผลออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท โดยการเข้าไปรบกวนไม่ให้เกิดการหลั่งสารสื่อประสาทออกมา ส่งผลทำให้กล้ามเนื้อไม่สามารถเกร็งหรือหดตัวได้ตามปกติ เมื่อกล้ามเนื้อเริ่มคลายตัว ไม่หดเกร็ง จึงทำให้ริ้วรอยทั้งแบบตื้น และแบบลึกแลดูจางลง ช่วยป้องกันปัญหาริ้วรอยเกิดใหม่ นอกจากนี้การฉีดโบท็อกซ์ยังช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อให้เรียวเล็กลง ทำให้สัดส่วนดูกระชับสวยงามมากขึ้นอีกด้วย โดยจะเริ่มเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก และสามารถอยู่ได้นานถึง 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด และการดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์ของแต่ละบุคคล

โบท็อกซ์ ฉีดตรงไหน ช่วยเรื่องอะไรบ้าง

ความโดดเด่นของการฉีดโบท็อกซ์ คือ หัตถการที่ทำได้ง่ายด้วยการฉีดตัวยาเข้าสู่ผิวบริเวณเป้าหมาย เพื่อปรับผิวให้กระชับเต่งตึงมากยิ่งขึ้น ช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อ ปรับสัดส่วนให้เรียวสวย จึงสามารถฉีดโบท็อกซ์ เพื่อแก้ไขปัญหาผิวได้หลายจุด ดังนี้

  • หน้าผาก ช่วยลดริ้วรอยหน้าผาก รอยย่นระหว่างคิ้ว
  • ลดริ้วรอยรอบดวงตา รอยตีนกา โบท็อกซ์ยกหางตา
  • ริ้วรอยร่องแก้ม รอยย่นที่แก้ม ร่องน้ำหมาก
  • ลดขนาดปีกจมูก ช่วยให้ปลายจมูกมีขนาดเล็ก และเรียวสวยมากขึ้น
  • ลดขนาดกราม ช่วยปรับใบหน้าให้เรียวสวยเป็นทรง V-shape
  • ฉีดโบท็อกซ์กระชับรูขุมขน ช่วยปรับผิวหน้าให้เรียบเนียนยิ่งขึ้น
  • กล้ามเนื้อแขน ลดขนาดน่อง ทำให้แขน และขาเรียวสวยสมส่วน
  • โบท็อกซ์รักษาอาการออฟฟิศซินโดรม บรรเทาอาการปวดศีรษะที่เกิดจากความเครียด และอาการไมเกรน
  • ฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ ลดปัญหากลิ่นตัวเหมาะ สำหรับผู้ที่มีปัญหาเหงื่อออกมากทั้งเหงื่อที่บริเวณฝ่าเท้า ฝ่ามือและรักแร้
โบท็อกซ์ ฉีดตรงไหน

การฉีดโบท็อกซ์ เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยทั้งแบบตื้น และแบบลึก ปัญหาผิวเหี่ยวย่นขาดความกระชับเพราะอายุที่เพิ่มขึ้น ตลอดไปจนถึงปัญหาผิวที่เกิดจากปัจจัยกระตุ้นอื่น ๆ เช่น ริ้วรอยบนใบหน้าที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ มลภาวะ แสงแดด ฝุ่นควัน ความเครียด อาหารที่ทำร้ายผิว
  • ผู้ที่ต้องการฉีดลดขนาดกราม ปรับกรอบหน้าให้เรียวสวยเป็นทรง V-shape ได้โดยไม่ต้องใช้การผ่าตัดใหญ่ ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น
  • ผู้ที่มีรูขุมขนขนาดใหญ่ทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียน
  • ผู้ที่ต้องการปรับลดขนาดของปีกจมูกให้เล็กลง ทำให้จมูกเรียวสวยมากขึ้น โดยไม่ต้องศัลยกรรมเสริมจมูก 
  • ผู้ที่มีภาวะเหงื่อออกเยอะมากผิดปกติ ทั้งที่บริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า และที่รักแร้ ทำให้เกิดกลิ่นตัวและรู้สึกขาดความมั่นใจ
  • ผู้ที่มีปัญหากล้ามแขนใหญ่ ต้นแขนหนา บ่าใหญ่ หรือกล้ามเนื้อน่องขาปูด

ฉีดโบท็อกซ์ต้องฉีดกี่ครั้ง ฉีดได้บ่อยแค่ไหน

โดยปกติแล้วแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะไม่แนะนำให้ฉีดโบท็อกซ์บ่อยเกินไป เพราะจะทำให้ร่างกายได้รับปริมาณตัวยามากเกินจำเป็น จนส่งผลอันตรายหรืออาจทำให้เกิดภาวะดื้อโบท็อกซ์ได้ โดยแพทย์จะกำหนดปริมาณตัวยาที่ต้องใช้แต่ละจุดอย่างเหมาะสม และเว้นระยะห่างของการฉีดโบท็อกซ์แต่ละครั้งอย่างน้อย 3-5 เดือน เพื่อให้ตัวยาได้ออกฤทธิ์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ  

โบท็อกซ์ ลดกราม ลดกรอบหน้าได้จริงไหม?

โบท็อกซ์ ลดกราม ลดกรอบหน้าได้จริงไหม?

โบท็อกซ์ คืออะไร? ฉีดโบท็อกซ์ช่วยลดกราม ลดกรอบหน้าได้จริงไหม? เป็นอีกหนึ่งข้อสงสัยที่หลาย ๆ คนอยากรู้ ตัวยาโบท็อกซ์ที่ฉีดเข้าชั้นผิวบริเวณกรอบหน้า จะออกฤทธิ์ช่วยคลายกล้ามเนื้อที่หดเกร็งออกจากกัน และช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อได้ชั่วคราว เมื่อกล้ามเนื้อไม่ถูกใช้งาน จึงส่งผลให้มีขนาดเล็กลงทำให้บริเวณกรามและกรอบหน้า ดูเรียวสวยเป็นทรง V-shape โดยไม่ต้องใช้การผ่าตัด

โบท็อกซ์กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานแค่ไหน

หลังจากฉีดโบท็อกซ์ได้ประมาณ 2-3 วันจะเริ่มสังเกตเห็นได้ว่าผิวบริเวณที่ฉีดดูเรียบเนียน และเต่งตึงมากขึ้น ริ้วรอยทั้งแบบตื้น และแบบลึกแลดูจางลงก่อนที่จะเริ่มเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้อย่างเต็มที่ในช่วง 10-14 วัน สำหรับการฉีดโบท็อกซ์ลดกรามจะเริ่มเห็นผลได้อย่างเต็มที่หลังฉีดโบท็อกซ์ประมาณ 4-6 สัปดาห์ สามารถอยู่ได้นานตั้งแต่ 4-8 เดือนทั้งนี้อาจแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ตำแหน่งที่ฉีดโบท็อกซ์ ยี่ห้อโบท็อกซ์และปริมาณตัวยาที่ใช้ เทคนิคการฉีดของแพทย์รวมไปจนถึงการดูแลผิวหลังฉีดโบท็อกซ์ของแต่ละบุคคล

ฉีดโบท็อกซ์อันตรายไหม?

หลายคนอาจรู้สึกเป็นกังวลว่า การฉีดโบท็อกซ์อันตรายไหม? ฉีดโบท็อกซ์แล้วจะทำให้หน้าแข็ง ยิ้มแข็ง หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยวตามที่เคยเห็นในข่าวบ่อย ๆ หรือไม่ ตอบได้เลยว่า การฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย ลดกราม ลดหน้าเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง และมีผลข้างเคียงหลังการรักษาค่อนข้างน้อย โดยอาจทำให้เกิดแค่เพียงรอยแดงเข็ม รอยบวมช้ำตรงบริเวณที่ฉีดซึ่งจะหายเป็นปกติได้ภายใน 1-2 สัปดาห์

จุดสำคัญ คือ ควรเลือกฉีดโบท็อกซ์กับคลินิกเสริมความงามที่มีคุณภาพ ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากกระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการรักษาและมีการประเมินปัญหาผิวโดยละเอียด ก่อนเริ่มขั้นตอนการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ตัวยาโบท็อกซ์ที่ใช้เป็นของแท้ 100% ผ่านการรับรองจาก อย. ประเทศไทย และแพทย์จะต้องแกะกล่องโบท็อกซ์ใหม่ต่อหน้าผู้เข้ารับบริการเท่านั้น

สำหรับเคสที่มีปัญหาหลังการฉีดโบท็อกซ์ ฉีดโบท็อกซ์แล้วหน้าแข็งเป็นก้อน หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยวหรือทำให้เสียโฉม โดยส่วนใหญ่แล้วมักเกิดขึ้น เพราะการฉีดโบท็อกซ์กับผู้ที่ไม่ใช่แพทย์ หมอกระเป๋า และตัวยาที่ใช้เป็นยาเถื่อน ยาหิ้วที่ไม่ได้มาตรฐาน

รีวิว Botox

โบท็อกซ์ คืออะไร
โบท็อกซ์ คืออะไร
โบท็อกซ์ คืออะไร
โบท็อกซ์ คืออะไร
โบท็อกซ์ คืออะไร
โบท็อกซ์ คืออะไร
โบท็อกซ์ คืออะไร
โบท็อกซ์ คืออะไร
โบท็อกซ์ คืออะไร
โบท็อกซ์ คืออะไร
โบท็อกซ์ คืออะไร
โบท็อกซ์ คืออะไร
โบท็อกซ์ คืออะไร
โบท็อกซ์ คืออะไร

สรุป

โบท็อกซ์ คืออะไร? (Botox) หัตถการลดเลือนริ้วรอยให้ดูจางลงได้อย่างรวดเร็ว ช่วยปรับลดกราม ลดกรอบหน้าให้เรียวสวยได้ทรง V-shape ได้อย่างที่ใจต้องการ ด้วยหลักการทำงานสำคัญของโบท็อกซ์คือการออกฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อทำงานได้น้อยลง กล้ามเนื้อที่เคยหดหรือเกร็งตลอดเวลาจึงค่อยๆ คลายตัวออกส่งผลให้ผิวเรียบเนียน ริ้วรอยต่าง ๆ ที่เคยมีแลดูจางลงเริ่มเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงในช่วง 10-14 วัน

และการฉีดโบท็อกซ์ยังช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อเรียวเล็กส่งผลดีต่อการปรับลดสัดส่วนทั้งลดขนาดกราม ลดขนาดกล้ามเนื้อแขน กล้ามเนื้อน่อง โดยจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนภายในช่วง 4-6 สัปดาห์หลังฉีด สำหรับใครที่สนใจอยากฉีดโบท็อกซ์ สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ The Miss Clinic ได้ทุกสาขา หรือแอดไลน์ @themiss เพื่อสอบถามข้อมูล โปรโมชั่น หรือดูรีวิวฉีดโบท็อกซ์ได้เลยค่ะ

The post โบท็อกซ์ คืออะไร ลดกราม ลดหน้าได้จริงไหม ฉีดบ่อยแค่ไหนเห็นผล? appeared first on The miss clinic คลินิกเสริมความงาม ศัลยกรรม บริการฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์.

]]>
https://themissclinic.com/%e0%b9%82%e0%b8%9a%e0%b8%97%e0%b9%87%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b8%8b%e0%b9%8c-%e0%b8%84%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8%b0%e0%b9%84%e0%b8%a3/feed/ 0
โบท็อกซ์ กับ ฟิลเลอร์ ต่างกันอย่างไร ? ใครเหมาะกับแบบไหน https://themissclinic.com/%e0%b9%82%e0%b8%9a%e0%b8%97%e0%b9%87%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b8%8b%e0%b9%8c-%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%9a-%e0%b8%9f%e0%b8%b4%e0%b8%a5%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c/ https://themissclinic.com/%e0%b9%82%e0%b8%9a%e0%b8%97%e0%b9%87%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b8%8b%e0%b9%8c-%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%9a-%e0%b8%9f%e0%b8%b4%e0%b8%a5%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c/#respond Wed, 04 Oct 2023 03:15:24 +0000 https://themissclinic.com/?p=425 The post โบท็อกซ์ กับ ฟิลเลอร์ ต่างกันอย่างไร ? ใครเหมาะกับแบบไหน appeared first on The miss clinic คลินิกเสริมความงาม ศัลยกรรม บริการฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์.

]]>

โบท็อกซ์ กับ ฟิลเลอร์ ต่างกันอย่างไร ? ใครเหมาะกับแบบไหน เป็นคำถามที่สาว ๆ หลายคน หรือคนพึ่งเข้าวงการฉีดหน้าต่างสงสัย ว่าทั้ง 2 หัตถการนี้ต่างกันอย่างไร และช่วยเรื่องอะไรบ้าง วันนี้ทาง The Miss Clinic คลินิกความงามขอนแก่น เราจะมาไขข้อสงสัยที่หลายคนอยากรู้ว่า โบท็อกซ์ กับ ฟิลเลอร์ ต่างกันอย่างไร ? และใครบ้างที่ควรทำหัตถการนี้ ฉีดอะไรปังที่สุด

โบท็อกซ์ คืออะไร

โบท็อกซ์ เรียกได้ว่าเป็นหัตถการที่สาว ๆ ต่างให้ความสนใจ การเติมโบท็อกซ์ เป็นอีกหนี่งทางเลือกสำหรับใครที่ไม่มั่นใจในรูปหน้า หรือมีปัญหารูปหน้า ซึ่ง Botox หรือ สารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) คือ สารโปรตีนที่ถูกสกัดจากแบคทีเรียสายพันธุ์เฉพาะ (Clostridium botulinum) โดยมีคุณสมบัติพิเศษ โบท็อกซ์จะทำงานกับกล้ามเนื้อ โดยการจับปลายเส้นประสาทที่มาควบคุมกล้ามเนื้อ จากนั้นจะยับยั้งเซลล์ประสาท ไม่ให้ผลิตสาร Acetylcholin ที่เป็นการกระตุ้นกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อในบริเวณนั้นมีการหดตัว จึงส่งผลให้ใบหน้ามีความกระชับ ทั้งยังช่วยทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้นแบบทันใจ และช่วยลดริ้วรอยได้เป็นอย่างดี

โบท็อกซ์ ช่วยเรื่องอะไร

การฉีดโบท็อกซ์ ขอนแก่น ถือเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการความกระชับ และปรับรูปหน้า นอกจากนี้ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาผิวได้อย่างหลากหลาย

  1. ช่วยลดเลือนริ้วรอย และช่วยยกกระชับใบหน้าให้มีความเต่งตึงขึ้น โบท็อกซ์สามารถแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ตีนกา ริ้วรอยที่แก้ไขได้ยาก
  2. ช่วยยกกระชับกรอบหน้า ลดขนาดกล้ามเนื้อกราม เพิ่มความ V-shape ให้กับรูปหน้า ทั้งยังช่วยให้กรอบหน้ามีความชัดขึ้น หน้าจึงดูเรียวสวยมากขึ้น
  3. ช่วยลดขนาดเฉพาะจุด เช่น ลดโหนกแก้ม ลดปีกจมูก ริ้วรอยหางตา/ใต้ตา ริ้วรอยหน้าผาก ริ้วรอยคอ และลดน่อง/ต้นแขน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณในการฉีด และปัญหาของกล้ามเนื้อ
  4. ช่วยกระชับรูขุมขนบนใบหน้า และลดขนาดของต่อมไขมันบนใบหน้าให้เล็กลง
  5. ช่วยลดเหงื่อ โบท็อกซ์จะช่วยทำให้ต่อมเหงื่อกระชับขึ้น สามารถฉีดได้บริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรือบริเวณรักแร้

ฉีดโบท็อก ตรงไหนดี ?

การฉีดโบท็อกซ์สามารถฉีดได้หลากหลายจุด ซึ่งการฉีดแต่ละจุดนั้นจะใช้ปริมาณของโบท็อกซ์ที่แตกต่างกัน โดยส่วนมากจะขึ้นอยู่กับปัญหาแต่ละจุด รวมถึงขนาดกล้ามเนื้อ

  • โบท็อกซ์ลดกราม
  • โบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า
  • โบท็อกซ์หน้าผาก
  • โบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว
  • โบท็อกซ์ริ้วรอยตีนกา
  • โบท็อกซ์รักแร้ ลดเหงื่อ
  • โบท็อกซ์ลดกล้ามแขน
ฉีดโบท็อก ตรงไหนดี ?
ฉีดโบท็อก ตรงไหนดี ?
ฉีดโบท็อก ตรงไหนดี ?
ฉีดโบท็อก ตรงไหนดี ?

โบท็อกซ์จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการกระชับผิว มีผิวที่หย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับ รูขุมขนกว้าง หรือมีปัญหาร่องริ้วรอยตามอายุ คนที่ต้องการปรับรูปหน้า ให้มีความเรียวกระชับ กรอบหน้าดูชัด และคนที่มีปัญหาเหงื่อออกมากผิดปกติ นอกจากนี้โบท็อกซ์ยังช่วยในเองของการรักษาโรคออฟฟิศซินโดรมได้อีกด้วย ทั้งนี้การฉีดโบท็อกซ์นั้นต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์ เพราะเป็นหัตถการที่มีความพิถีพิถัน และควรใช้ความระมัดระวังสูง

ฟิลเลอร์ คืออะไร

สาว ๆ ขอนแก่นที่อยากจะเติมเต็มความปัง ความอิ่มฟูให้กับใบหน้า ฟิลเลอร์ ก็เป็นอีกหนึ่งหัตถการที่ตอบโจทย์อย่างมาก ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มที่ฉีดเข้าไปใต้ชั้นผิวหนังโดยจะอยู่ในรูปสารไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid หรือ HA) เป็นสารที่ผลิตมาเพื่อเลียนแบบสารที่มีอยู่ใต้ชั้นผิว ซึ่งฟิลเลอร์สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ตกค้างในร่างกาย และมีความปลอดภัย การเติมฟิลเลอร์สามารถช่วยแก้ปัญหาผิวได้อย่างหลากหลาย

ฟิลเลอร์ ช่วยเรื่องอะไร

ใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับผิวดูไม่กระชับ ไม่เต่งตึง หรือต้องการความอิ่มฟูของผิว การเติมฟิลเลอร์ จะช่วยเติมเต็มผิวให้ปัง และอวบอิ่มมากขึ้น ดังนี้

  1. ช่วยปรับรูปหน้าให้เข้าที่มากยิ่งขึ้น ในบริเวณผิวที่มีความแบน ไม่มีมิติ หรือต้องการปรับโหวงเฮ้ง ฟิลเลอร์เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ต้องผ่าตัด และเห็นผลได้ทันที สามารถปรับรูปหน้าได้หลายบริเวณ เช่น หน้าผาก จมูก ปาก และกรอบหน้า
  2. ช่วยกระชับผิวหน้า และเติมเต็มผิวในบริเวณที่ฝ่อลง เนื่องจากอายุที่มากขึ้น การฉีดฟิลเลอร์จะช่วยทำให้ผิวหน้าของเรามีมิติ และดูเด็กลงมากขึ้น เช่น บริเวณร่องแก้ม แก้มตอบ แก้มส้ม ขมับ ใต้ตา และร่องน้ำหมาก
  3. ช่วยเติมเต็มผิวให้มีความอวบอิ่ม และเรียบเนียนมากขึ้น ในบริเวณที่มีการทรุดของกระดูก หรือบริเวณที่คอลลาเจน หรือ อิลาสติน ในร่างกายนั้นเสื่อมสลายไป การเติมฟิลเลอร์ สามารถช่วยเติมเต็มร่องลึกบนผิวได้เป็นอย่างดี เช่น บริเวณใต้ตา ร่องแก้ม ปาก

Filler ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง ?

  • ฟิลเลอร์ปาก
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา
  • ฟิลเลอร์คาง
  • ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
  • ฟิลเลอร์ขมับ
  • ฟิลเลอร์แก้มตอบ
  • ฟิลเลอร์แก้มส้ม
  • ฟิลเลอร์หน้าผาก
  • ฟิลเลอร์จมูก
  • ฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก
  • ฟิลเลอร์กรอบหน้า
ฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์ จึงเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอย หรือมีปัญหากระดูกใบหน้าที่ทรุดลง และคอลาเจนลดลงตามอายุที่มากขึ้น ต้องการที่จะปรับรูปหน้า เพิ่มโหวงเฮง เพราะฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มผิวให้มีความอิ่มฟู อวบอิ่ม และปรับรูปหน้าให้มีความโดดเด่น และมีมิติมากขึ้น ทั้งนี้การฉีดฟิลเลอร์นั้นต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์ เพราะเป็นหัตถการที่ต้องใช้ความชำนาญ สามารถปรึกษาแพทย์ได้ที่ The Miss Clinic

ทำความเข้าใจกับ โบท็อกซ์ กับฟิลเลอร์ หัตถการยอดฮิต

หลาย ๆ คนอาจจะเข้าใจผิดได้ว่า โบท็อกซ์ และฟิลเลอร์มีความเหมือนกัน แต่การทำงานของโบท็อกซ์ และฟิลเลอร์นั้นมีทั้งในจุดที่เหมือน และแตกต่างกัน โดยโบท็อกซ์จะช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด มีความกระชับขึ้น ลดเลือนริ้วรอย ซึ่งสามารถฉีดได้หลากหลายบริเวณ เช่น รอยย่นหว่างคิ้ว กรอบหน้า กราม น่อง ต้นแขน แต่ในส่วนของฟิลเลอร์นั้น จะเน้นไปที่การเติมเต็มของผิวหน้า เพิ่มมิติให้กับผิวหน้า ทั้งยังช่วยปรับรูปหน้าได้หลากหลายจุด โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ว่าจะเป็น หน้าแก้ม ปาก คาง ใต้ตา ริ้วรอย เป็นต้น ดังนั้นก่อนที่จะเลือกทำหัตถการ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อที่จะประเมินใบหน้า เพื่อที่จะได้แก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด

ไขข้อข้องใจ โบท็อกซ์กับฟิลเลอร์ ฉีดแบบไหนดีกว่า ?

การเลือกฉีดโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์ แบบไหนดีกว่ากัน ? ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของเรา แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินปัญหาผิว ก่อนทำหัตถการ เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด และเพิ่มความมั่นใจได้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้การฉีดโบท็อกซ์ หรือฟิลเลอร์นั้น เป็นการทำหัตถการเฉพาะที่ต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการดูแล และทำหัตถการทั้งหมด ไม่นั้นอาจจะเกิดอันตรายได้

ฟิลเลอร์ กับ โบท็อกซ์ ต่างกันอย่างไร ?

ฟิลเลอร์ กับ โบท็อกซ์ เป็นหัตถการที่ช่วยแก้ปัญหาผิวได้อย่างหลากหลาย สามารถทำร่วมกันได้ สำหรับใครที่ยังสงสัยว่า ทั้ง 2 หัตถการนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร วันนี้ทางเราได้นำตารางเปรียบเทียบมาให้สาว ๆ ได้ทำความเข้าใจแบบง่าย ๆ ดังนี้

ประเภท

Filler

Botox

ตัวยา

Hyaluronic Acid

Botulinum Toxin A

หลักการทำงาน

เติมเต็มหรือเสริมชั้นผิวหนัง ทดแทนคอลลาเจน อิลาสติน และกระดูกที่ยุบตัว

ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวชั่วคราว ช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อ

ฉีดบริเวณใด

ชั้นผิวหนังและใต้ผิวหนัง

ชั้นกล้ามเนื้อ

ผลลัพธ์หลังฉีด

ลดเลือนริ้วรอย ปรับรูปหน้า เติมเต็มผิวให้ดูอวบอิ่ม เรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์

ผิวยกกระชับ ริ้วรอยลดเลือน ปรับกรอบหน้าให้ชัดขึ้น

ระยะเวลาเห็นผล

เห็นผลทันที

เห็นผลใน 3-4 วัน

ความนานของผลลัพธ์

6-24 เดือน

4-6 เดือน

ราคา

ราคาจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ปริมาณ และจุดที่ฉีด

ราคาจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และปริมาณที่ฉีด

ฉีดโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ ขอนแก่น ที่ไหนดี ปลอดภัย

ใครที่อยากจะเพิ่มความมั่นใจ เพิ่มความสวยให้กับใบหน้าให้เป๊ะมากขึ้น ฟิลเลอร์ และโบท็อกซ์ ถือเป็นหัตถการที่ตอบโจทย์ได้อย่างหลากหลาย นอกจากนี้ยังรวมบริการความงามมากมาย สามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ The Miss Clinic คลินิกความงามขอนแก่น เป็นคลินิกความงามที่ได้มาตรฐาน บริการครบวงจร มาพร้อมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่คอยให้คำปรึกษาแก่คุณลูกค้าทุกท่าน เพื่อตอบโจทย์ความสวยที่คุณต้องการได้อย่างครบครัน

สรุป

โบท็อกซ์ และฟิลเลอร์ เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมสูง ช่วยดูแลผิวหน้า ลดเลือนริ้วรอย และช่วยปรับรูปหน้าให้มีความกระชับมากขึ้น ทั้งยังช่วยทดแทนการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง โบท็อกซ์ กับ ฟิลเลอร์ ต่างกันอย่างไร ? ใครเหมาะกับแบบไหน สาว ๆ สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ได้ที่ The Miss Clinic คลินิกเวชกรรมขอนแก่น ได้

The post โบท็อกซ์ กับ ฟิลเลอร์ ต่างกันอย่างไร ? ใครเหมาะกับแบบไหน appeared first on The miss clinic คลินิกเสริมความงาม ศัลยกรรม บริการฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์.

]]>
https://themissclinic.com/%e0%b9%82%e0%b8%9a%e0%b8%97%e0%b9%87%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b8%8b%e0%b9%8c-%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%9a-%e0%b8%9f%e0%b8%b4%e0%b8%a5%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c/feed/ 0
The Miss Clinic คลินิกความงามขอนแก่น https://themissclinic.com/the-miss-clinic-%e0%b8%84%e0%b8%a5%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%b4%e0%b8%81%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b9%81%e0%b8%81%e0%b9%88%e0%b8%99/ https://themissclinic.com/the-miss-clinic-%e0%b8%84%e0%b8%a5%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%b4%e0%b8%81%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b9%81%e0%b8%81%e0%b9%88%e0%b8%99/#respond Wed, 16 Aug 2023 08:00:06 +0000 https://themissclinic.com/?p=303 การเสริมความงามได้รับความนิยมอย่างมากในยุคปัจจุบัน เป็น

The post The Miss Clinic คลินิกความงามขอนแก่น appeared first on The miss clinic คลินิกเสริมความงาม ศัลยกรรม บริการฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์.

]]>
การเสริมความงามได้รับความนิยมอย่างมากในยุคปัจจุบัน เป็นเรื่องที่เป็นประจำในการดูแลและปรับปรุงรูปลักษณ์ของเราเพื่อให้มีความเชื่อมั่นและความสุขในชีวิตประจำวัน ในรายชื่อของสถานที่ที่น่าสนใจในด้านการเสริมความงาม ไม่สามารถไม่กล่าวถึง “The Miss Clinic” ที่เป็นแหล่งรวมบริการเสริมความงามที่ทันสมัยและเชื่อถือได้ในเมืองขอนแก่น

การบริการที่เน้นคุณภาพและความปลอดภัย

“The Miss Clinic” เป็นคลินิกความงามที่ได้รับความยอมรับด้านคุณภาพและความปลอดภัยของบริการ ทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่มีความเข้าใจในด้านความงามและเทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมให้คำแนะนำและการดูแลเอาใจใส่ที่เหมาะสมกับความต้องการและความปรารถนาของลูกค้า

บรรยากาศที่เป็นกันเองและเป็นส่วนตัว

เมื่อเข้าสู่ “The Miss Clinic” ลูกค้าจะได้รับบรรยากาศที่เป็นกันเองและเป็นส่วนตัว เพื่อให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขในระหว่างการรับบริการ เราเข้าใจความสำคัญของการมอบประสบการณ์ที่น่าทึ่งแก่ลูกค้าทุกท่าน

รายการบริการที่ครอบคลุมทั้งหน้าและร่างกาย

“The Miss Clinic” มีรายการบริการที่ครอบคลุมทั้งด้านความงามใบหน้าและร่างกาย ตั้งแต่การบำรุงผิวพรรณให้กระจ่างใส การรักษาสิวและแผลเป็น การเสริมความงามด้วยฟิลเลอร์ บท็อกซ์ จนถึงการกระชับผิวและรักษาสัดส่วนต่างๆ ที่จะช่วยเสริมเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับคุณ

รายการบริการหลากหลาย

“The Miss Clinic” มีรายการบริการที่หลากหลายที่เสริมความงามและปรับปรุงรูปลักษณ์ของคุณให้เหมาะสมกับความต้องการและความสนใจของคุณ รายการบริการที่คุณสามารถเลือกใช้ได้รวมถึง:

  1. เสริมหน้าอกและลดหน้าท้อง: โปรแกรมการเสริมหน้าอกและลดหน้าท้องเพื่อให้คุณมีรูปลักษณ์ที่คมชัดและเพศสัมพันธ์ที่สมดุลมากขึ้น
  2. ฟิลเลอร์และบท็อกซ์: การฉีดฟิลเลอร์หรือบท็อกซ์เพื่อลดริ้วรอยและเส้นประสาทอ่อนที่เกิดขึ้นจากกระบวนการแสวงหาความงาม
  3. การกระชับผิว: บริการกระชับผิวที่ใช้เทคโนโลยีรีดทิสอเลตเพื่อเรียกคืนความยืดหยุ่นและกระจ่างใสให้กับผิวของคุณ
  4. รักษาสิวและปัญหาผิวหน้า: การรักษาสิวและปัญหาผิวหน้าด้วยเทคนิคและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ
  5. บำรุงผิวพรรณ: การบำรุงผิวพรรณด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและเทคนิคการดูแลผิวที่ทันสมัย

สรุป

“The Miss Clinic” คลินิกความงามของคนขอนแก่นเป็นสถานที่ที่ไม่เพียงแต่ให้บริการด้านความงามที่มีคุณภาพ แต่ยังเป็นที่ที่สร้างความเชื่อมั่นและความสุขให้กับลูกค้าด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเอง และทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่มีความคุ้นเคยในเทคโนโลยีและเทรนด์ความงามที่ทันสมัย ถ้าคุณกำลังมองหาสถานที่ให้บริการความงามที่ได้รับการยอมรับในเมืองขอนแก่น “The Miss Clinic” คลินิกความงามน่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคุณ

The post The Miss Clinic คลินิกความงามขอนแก่น appeared first on The miss clinic คลินิกเสริมความงาม ศัลยกรรม บริการฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์.

]]>
https://themissclinic.com/the-miss-clinic-%e0%b8%84%e0%b8%a5%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%b4%e0%b8%81%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b9%81%e0%b8%81%e0%b9%88%e0%b8%99/feed/ 0